ถิรไทย หรือ TRT ผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าของประเทศ เผยผลประกอบการปี 62 ปรับตัวดีขึ้นโกยรายได้รวม 2,466 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มหม้อแปลงไฟฟ้า 1,857 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่หม้อแปลงไฟฟ้า 609 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 75.37 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 27.63% เนื่องจากมีการส่งมอบกลุ่มสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น แถมตุนงานโปรเจคยักษ์จาก บมจ. ไทยออยล์ เซ็นรับออเดอร์ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังขนาดใหญ่ และขนาดกลาง มูลค่ารวมกว่า 725 ล้านบาท เพื่อติดตั้งในโครงการพลังงานสะอาด ทางคณะกรรมการเตรียมยืนที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.12 บาทต่อหุ้น พร้อมเดินหน้าเต็มกำลังเข้าประมูลงานต่าง ๆ ณ กุมภาพันธ์ 63 ในมูลค่า 8,834 ล้านบาท คาดจะได้รับคำสั่งซื้อประมาณ 20% – 25% คาดปี 2563 มีรายได้ทะลุ 3,000 ล้านบาท
นาย สัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต จำหน่าย และซ่อมบำรุง หม้อแปลงไฟฟ้าทุกขนาดของคนไทยเพียงแห่งเดียว เปิดเผยว่า ในปี 62 ภาพรวมของผลประกอบการของ กลุ่มธุรกิจ ถิรไทย ปรับตัวดีขึ้น ทำให้ บริษัทฯ และ บริษัทย่อย มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,466 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 7% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น ต่อรายได้ขายและบริการ 27.63% เปรียบเทียบกับ 21.90% ในปี 61
การเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นผลให้ ณ 31 ธันวาคม 62 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 75.37 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2561 มีขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ (30.76) ล้านบาท ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทฯ เตรียมยืนที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.12 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 28 เมษายน 2563 อีกด้วย
สำหรับโครงสร้างรายได้ของบริษัทฯ จากรายได้รวมจำนวน 2,466 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ของกลุ่มหม้อแปลงไฟฟ้า 1,857 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงานภาครัฐและเอกชนในประเทศ 1,556 ล้านบาท ส่งออก 244 ล้านบาท และการบริการ 56 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่หม้อแปลงไฟฟ้า 609 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย รายได้จากงาน Fabricate Steel/EPC จำนวน 98 ล้านบาท, รายได้จากงานประกอบและจำหน่ายรถกระเช้าและงานบริการ จำนวน 97 ล้านบาท, รายได้จาก JV ของงาน O&M WL2 และ O&M Ash จำนวน 364 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ อีกจำนวน 50 ล้านบาท
นายสัมพันธ์ กล่าวถึงภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 2562 ของบริษัทฯ ว่า บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นต่อรายได้จากการขายและบริการในปี 62 อยู่ที่ 27.63% เทียบปีก่อนอยู่ที่ 21.90% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นของกลุ่มหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 18.76% ในปี 61 มาอยู่ที่ 26% ในปี 62 และ กำไรขั้นต้นในกลุ่มที่ไม่ใช่หม้อแปลงไฟฟ้า เพิ่มขึ้นจาก 31.58% ในปี 61 เป็น 33.16% ในปี 62 สาเหตุหลักจากมีการส่งมอบสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น
นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับปี 2563 ทางกลุ่มบริษัท ถิรไทย ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ 20%-25% จากปีที่แล้ว ซึ่ง เป็นเป้าหมายที่มีโอกาสเป็นไปได้สูง เนื่องจากทางกลุ่มบริษัท ถิรไทย มี Backlog มากกว่า 2,500 ล้านบาท มากพอที่จะสามารถเติบโตตามเป้าหมายได้ โดยจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยของทั้งกลุ่มอยู่ที่ 18% – 20% ณ.สิ้นกุมภาพันธ์ 2563 มี Backlog จำนวนทั้งสิ้น 2,696 ล้านบาท ซึ่งจะส่งมอบในปี 2563 จำนวน 2,603 ล้านบาท และ ในปี 2564 จำนวน 93 ล้านบาท โดยมีงานที่รอประมูลและเสนอราคา จำนวน 8,834 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้เป็นคำสั่งซื้ออยู่ที่ 20%-25%
นอกเหนือจากนี้ทางกลุ่มบริษัท ถิรไทย ได้จัดทำมาตราการต่างๆ และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ทันต่อสถานะการณ์
นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับปี 2563 ทางกลุ่มบริษัท ถิรไทย ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ 20%-25% จากปีที่แล้ว ซึ่ง เป็นเป้าหมายที่มีโอกาสเป็นไปได้สูง เนื่องจากทางกลุ่มบริษัท ถิรไทย มี Backlog มากกว่า 2,500 ล้านบาท มากพอที่จะสามารถเติบโตตามเป้าหมายได้ โดยจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยของทั้งกลุ่มอยู่ที่ 18% – 20% ณ.สิ้นกุมภาพันธ์ 2563 มี Backlog จำนวนทั้งสิ้น 2,696 ล้านบาท ซึ่งจะส่งมอบในปี 2563 จำนวน 2,603 ล้านบาท และ ในปี 2564 จำนวน 93 ล้านบาท โดยมีงานที่รอประมูลและเสนอราคา จำนวน 8,834 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้เป็นคำสั่งซื้ออยู่ที่ 20%-25%
นอกเหนือจากนี้ทางกลุ่มบริษัท ถิรไทย ได้จัดทำมาตราการต่างๆ และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ทันต่อสถานะการณ์
Cr.,Piture : Internet