เชียงใหม่พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 2 ราย !! รวมผู้ป่วยสะสม 34 ราย พร้อมมาตราการเยียวยา ดูแลราคาสินค้าที่เป็นธรรม โดยพาณิชย์จังหวัด และในส่วนผู้ที่จ่ายหลักประกันสังคม ได้รับผลกระทบ…ทางรัฐบาล..เข้าไปช่วยเหลือ..ซึ่งมีรายชื่ออยู่..ชดเชยจ่ายจริง!!

จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพิ่ม 2 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 34 ราย ด้านพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ขอความร่วมมืออย่ากักตุนสินค้า ขณะที่ประกันสังคมวางมาตรการช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ

นายแพทย์ชาญชัย พจมานวิพุธ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดเชียงใหม่ ในวันนี้ (31 มี.ค.63) มีผู้ติดเชื้อรวมทั้งทิ้ง 34 ราย เพิ่มขึ้น 2 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 29 ราย รักษาหายและกลับบ้านได้แล้ว 5 ราย โดยผู้ป่วยสะสมทั้ง 34 ราย

มาจากกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด จำนวน 9 ราย กลุ่มผู้สัมผัสร่วมบ้านผู้ป่วยยืนยัน จำนวน 3 ราย และกลุ่มมีประวัติเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 22 ราย สำหรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น รายแรก เป็นเพศชาย อายุ 43 ปี ทำงานเป็นเชฟ อยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ และมีประวัติร่วมสังสรรค์กับผู้ป่วยยืนยัน ที่ร้าน WB Pub เมื่อวันที่ 16 มีนาคม มีอาการไข้ต่ำๆ และไอ คัดจมูก เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งรายนี้มีผู้สัมผัสใกล้ชิด 7 คน ขณะนี้กำลังติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดมาดำเนินการตามกระบวนการต่อไป ผู้ป่วยอีกรายเป็นเพศหญิง เป็นแฟนของผู้ป่วยยืนยันที่เป็นดีเจในสถานบันเทิง นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค 664 ราย กลับบ้านได้แล้ว 574 ราย ยังอยู่ในโรงพยาบาลอีก 90 ราย

นายแพทย์ชาญชัย พจมานวิพุธ
(รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลนครพิงค์ )

ด้าน นางสาวศศิธร ริ้วทอง ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเขียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงใหม่ ในสัปดาห์นี้มีประชาชนไปจับจ่ายซื้อสินค้าลดลงเล็กน้อย สินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ สินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำดื่ม ทิชชู่ ส่วนสินค้าอาหารสดที่เป็นที่ต้องการของประชาชน ได้แก่ ไข่ไก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ ฯลฯ ยังมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ด้านภาวะราคาสินค้ายังทรงตัวจากสัปดาห์ก่อน และมีสินค้าบางตัวที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด มีการจัดโปรโมชั่นและเป็นที่สนใจของประชาชน มีการจับจ่ายเป็นจำนวนมาก ด้านสถานการณ์ไข่ไก่ จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนแม่ไก่ยืนกรง ประมาณ 2.3 ล้านตัว สามารถผลิตไข่ไก่ได้วันละประมาณ 1.8-2 ล้านฟอง และปริมาณบริโภคไข่ไก่ของชาวเชียงใหม่อยู่ที่ 1.6 ล้านฟองต่อวัน ราคาไข่ไก่ยังคงทรงตัวต่อเนื่อง แต่มีบางพื้นที่ที่มีการขยับราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ทางกรมการค้าภายในจะได้มีการประกาศราคาแนะนำ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนอย่ากักตุนไข่ไก่ เนื่องจากมีการผลิตไข่ไก่ออกมาทุกวัน และสามารถเก็บได้เพียง 21 วัน หากพบเห็นการจำหน่ายในราคาที่ผิดปกติ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569

นางสาวศศิธร ริ้วทอง
(ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเขียงใหม่)

นางสาวลัดดา แซ่ลี้ ประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมมีมาตรการช่วยเหลือในการจ่ายเงินช่วยเหลือ จากเดิมที่นายจ้างจะต้องจ่าย 5% ลดลงเหลือ 4% ในส่วนของลูกจ้างให้ปรับลดลงเหลือ 1% เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ รวมทั้งขยายระยะเวลานำส่งเงินสบทบจากเดิม ภายในเดือนมีนาคม ไปเป็นวันที่ 15 กรกฎาคม โดยไม่คิดเงินเพิ่ม ส่วนมาตรการช่วยเหลือลูกจ้างที่จะต้องกักตัว 14 วัน ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ให้นายจ้างทำหนังสือรับรองว่ามีความเสี่ยง ทางสำนักงานประกันสังคมก็จะจ่ายเงินทดแทนกรณีหยุดงานให้ ในส่วนของผู้ประกอบการที่จะต้องหยุดดำเนินกิจการทั้ง 28 ประเภทกิจการสารมารถทำหนังสือรับรองขอรับเงินชดเชยได้ตามจำนวนวันที่รัฐสั่งให้หยุด ส่วนประเภทที่จะต้องเลิกจ้างพนักงาน จะต้องแจ้งลาออกให้ลูกจ้าง ทั้งในกรณีลาออกเอง และปิดกิจการเลิกจ้าง กรณีที่ลูกจ้างลาออกเอง ลูกจ้างจะได้รับเงินชดเชย 45% เป็นระยะเวลา 90 วัน ส่วนกรณีถูกเลิกจ้าง ลูกจ้างจะได้รับเงินชดเชย 70% ของค่าแรง ไม่เกิน 15,000 บาท เป็นระยะเวลา 200 วัน ซึ่งจะจ่ายเงินผ่านระบบธนาคาร ที่จะต้องตรงกับชื่อผู้ประกันตน

นางสาวลัดดา แซ่ลี้
(ประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่)

โดยนายจ้างและลูกจ้างสามารถติดต่อได้ทางเว็บไซต์ www.sso.go.th หรือสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต และส่งคำร้องได้ทางไปรษณีย์ หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อลดการสัมผัสและการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ หรือที่สายด่วน 1506 ต่อ 1

สำนักข่าว “RATCHATA NEWS”


ขอบคุณข้อมูล : ศราวุธ เจิมจันทร์ ..ภาพ/ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
30 มีนาคม 2563…

Loading

Facebook Comments: (1) ห้ามใช้คำพูด หรือเขียนข้อความหยาบคาย ด่าทอ ดูถูกดูหมิ่นดูแคลน (2) ห้ามพูดหรือเขียนข้อความอันจาบจ้วงสถาบันหลักสำคัญของชาติ ห้ามละเมิดกฎหมาย ป.อาญามาตรา 112 โดยเด็ดขาด (3) ห้ามพูดจาละเมิดหรือเขียนข้อความอันสร้างความเกลียดชังในเรื่อง ชาติ ศาสนา เชื้อชาติ การแสดงความเคารพต่างๆ ของส่วนบุคคล และของประเทศต่างๆ ห้ามเอาความเชื่อส่วนบุคคลมาวิพากย์วิจารณ์อย่างดูหมิ่นดูแคลนเหยีดหยาม (4) ห้ามพูดจาหรือเขียนข้อความ ที่ดูหมิ่น-ละเมิดศาล หรือวิจารณ์วิเคราะห์คำพิพากษาของศาลโดยเด็ดขาด (5) ห้ามเขียนหรือกระทำการแสดงความคิดเห็นต่างๆที่เข้าข่ายผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ (6) ต้องปฏิบัติและเคารพกฏหมายและระเบียบธรรมเนียมปฏิบัติอย่างเคารพกฏหมายอย่างเข้มงวด

Leave a Reply

Your email address will not be published.