อินโดนีเซียมีแพทย์สังเวยชีวิตในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 แล้ว 25 คน ขณะยอดติดเชื้อในประเทศเพิ่มเป็นเกือบ 2,500 คนแล้ว ส่วนฟิลิปปินส์ขยายมาตรการล็อกดาวน์ยาวถึงสิ้นเดือนนี้ เมืองสิงคโปร์แทบร้าง ธุรกิจสำนักงานปิดเกือบหมดตามคำสั่งรัฐบาล
ข้อมูลของทางการอินโดนีเซียรวบรวมถึงวันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2563 จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศเพิ่มเป็น 2,491 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ 218 รายภายใน 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น ส่วนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 209 ราย มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่น่าสลดใจคือมีแพทย์เสียชีวิตเพราะโรคโควิด-19 แล้ว 25 คน โดยเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวนับจากสัปดาห์ที่ผ่านมา.
สำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันอังคาร อ้างคำกล่าวของฮาลิก มาลิก โฆษกสมาคมแพทย์อินโดนีเซียว่า แนวโน้มการเสียชีวิตของแพทย์กำลังพุ่งทะยาน เขายอมรับว่าบุคลากรทางแพทย์มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสอยู่ตลอด แต่ประเด็นคือ บุคลากรทางการแพทย์จำเป็นต้องได้รับการป้องกัน
จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียชีวิตจำนวนมากในอินโดนีเซียทำให้กลุ่มสิทธิหลายกลุ่ม รวมถึงแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนล แสดงความห่วงกังวล แถลงการณ์ร่วมขององค์กรเหล่านี้ที่ออกเมื่อวันเสาร์กล่าวว่า การเสียชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลข แต่เป็นการเตือนให้อินโดนีเซียแก้ไขระบบสาธารณสุขของประเทศในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกล่าวกันว่า เปอร์เซ็นต์การตายที่สูงในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้ว เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามีการแพร่ระบาดมากกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการ และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หน่วยงานด้านข่าวกรองของอินโดนีเซียเปิดเผยการคาดการณ์ของพวกเขาว่า ภายใน 3 เดือนข้างหน้าจำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงสุด โดยจะเกิน 100,000 คนภายในเดือนกรกฎาคม
เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด กล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (พีพีอี) ถูกแจกจ่ายไปทั่วประเทศแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคต้องเฝ้าติดตามการจัดส่งอุปกรณ์นี้ให้ถึงโรงพยาบาลต่างๆ
รายงานกล่าวว่า ความขาดแคลนชุดป้องกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ทำให้บางครั้งแพทย์ต้องใช้เสื้อกันฝนและจัดหาหน้ากากอนามัยมาใช้กันเอง
ที่ฟิลิปปินส์ เอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต อนุมัติการขยายเวลาใช้มาตรการล็อกดาวน์และกักกันโรคประชาชนที่บ้าน ซึ่งครอบคลุมประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ คาร์โล โนกราเลส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวประจำวันเมื่อวันอังคารว่า มาตรการกักกันชุมชนอย่างเข้มงวดซึ่งใช้มานานเกือบ 1 เดือนและจะครบกำหนดปลายสัปดาห์หน้า จะถูกขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศแรกๆ ในโลกที่บังคับใช้มาตรการกักกันประชาชนไว้ในเคหสถาน ห้ามการเคลื่อนย้าย และการรวมตัวของประชาชน ภายในกรุงมะนิลาและปริมณฑล ถึงวันอังคารฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว 3,660 ราย เสียชีวิตไป 163 ราย
เพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคอาเซียนอย่างสิงคโปร์ ก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 1,375 รายแล้ว เสียชีวิต 6 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 66 คนเมื่อวันจันทร์ สัปดาห์นี้รัฐบาลสิงคโปร์เริ่มใช้มาตรการจำกัดการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติมด้วยการสั่งปิดธุรกิจสำนักงานที่ไม่จำเป็น และขอให้ประชาชนอยู่บ้าน ทำให้สภาพในเขตธุรกิจที่เคยคึกคักแทบร้างผู้คนเมื่อวันอังคาร และวันพุธนี้โรงเรียนก็จะเริ่มหยุดเรียนนาน 1 เดือน
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์เริ่มกักกันแรงงานต่างด้าวเกือบ 20,000 คนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลายรายภายในหอพักของคนงาน
สำนักข่าว RATCHATA NEWS Cr. Internet