“นายกฯ.ชี้”!!คลายล็อกแบ่ง 4 กลุ่ม เปิดห่างกัน 14 วัน เริ่มสถานที่เสี่ยงน้อยก่อน

วันนี้ (28 เมษายน) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจำเป็นต้องต่ออายุ พ.ร.ก. ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่ 1-31 พฤษภาคมนี้ หลายข้อกำหนดยังคงสภาพเดิมอยู่ การเคอร์ฟิวก็ยังคงมีอยู่ในช่วงเวลา 22.00-04.00 น.

แต่อีกส่วนจะมีมาตรการในการผ่อนคลายปลดล็อกกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีคณะกรรมการศึกษารายละเอียดต่างๆ ซึ่งขอให้รอฟังรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งในสัปดาห์นี้ 

ผมทราบดีถึงความลำบากของพี่น้องทุกคน ท่านลำบากผมก็ลำบาก ผมเข้าใจดีถึงผู้มีรายได้น้อย จะเห็นว่ารัฐบาลมีมาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือเยียวยาฝนครั้งแรกเราประมาณการไว้ 3 ล้านคน ก็เพิ่มขึ้นมาจำนวนมาก ซึ่งต้องทยอยดำเนินการไปตามสัดส่วนงบประมาณที่มีอยู่ ทั้งงบกลางที่เหลืออยู่ และ พ.ร.ก. เงินกู้ ซึ่งจะต้องทันในการเยียวยาทั้งหมดทุกกลุ่ม

สำหรับหลักการในการพิจารณาที่ได้มอบนโยบายไปคือ ต้องเอากิจกรรมทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมาดู และได้กำหนดมาตรฐานกลาง เอากิจกรรมทั้งหมดมาดูรวมกัน และแบ่งเป็นกลุ่มสีขาว สีเขียว สีเหลือง และสีแดง แต่ละกลุ่มจะทยอยเปิดห่างกัน 14 วัน เพื่อประเมิน และเราจะประกาศเมื่อถึงเวลา และเราคำนึงถึงผู้มีรายได้น้อย ขอรอฟังการแถลงข่าวในสัปดาห์นี้ว่าจะมีรายละเอียดอะไรบ้าง ทั้งนี้หากผ่อนคลายไปแล้ว ถ้ามีการแพร่ระบาดก็จำเป็นต้องปิดอีก 

“ขอความร่วมมือกับสถานประกอบการต่างๆ ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง ไหนๆ ก็อดทนกับผมมาแล้ว ผมก็เจ็บปวดไปกับท่านนั่นแหละ ผมเข้ามาเพื่อดูแลพี่น้องประชาชน วันนี้สถานการณ์มันกดดันเราเข้ามามากมายหลายประการด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย ทั้งภูมิภาคของเรา และทั้งโลกเดือดร้อนไปหมดในเรื่องสถานการณ์โควิด-19” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนวันหยุดราชการซึ่งเดิมว่าจะมีการไม่หยุด แต่มติ ครม. วันนี้ก็ให้หยุดตามปกติ เพียงแต่ว่าต้องมีมาตรการป้องกัน Social Distancing 

อีกอันที่เป็นห่วง ในเมื่อเราคลายล็อกแล้ว ขอประชาชนระมัดระวังการเข้าพื้นที่ที่แออัดมากๆ โดยมาตรการผ่อนปรนจะทำเป็นระยะๆ เปิดกิจการที่จำเป็นและเสี่ยงน้อยก่อน โดยจะมีมาตรการประเมินผล และสถานประกอบการต้องเตรียมตัวให้พร้อม และทุกท่านสามารถเพิ่มเติมมาตรการนอกเหนือจากส่วนกลางที่ออกไปได้ เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่าสถานที่ของท่านนั้นปลอดเชื้อโควิด-19

สำนักข่าว RATCHATA NEWS 085-157-7465

Loading

Facebook Comments: (1) ห้ามใช้คำพูด หรือเขียนข้อความหยาบคาย ด่าทอ ดูถูกดูหมิ่นดูแคลน (2) ห้ามพูดหรือเขียนข้อความอันจาบจ้วงสถาบันหลักสำคัญของชาติ ห้ามละเมิดกฎหมาย ป.อาญามาตรา 112 โดยเด็ดขาด (3) ห้ามพูดจาละเมิดหรือเขียนข้อความอันสร้างความเกลียดชังในเรื่อง ชาติ ศาสนา เชื้อชาติ การแสดงความเคารพต่างๆ ของส่วนบุคคล และของประเทศต่างๆ ห้ามเอาความเชื่อส่วนบุคคลมาวิพากย์วิจารณ์อย่างดูหมิ่นดูแคลนเหยีดหยาม (4) ห้ามพูดจาหรือเขียนข้อความ ที่ดูหมิ่น-ละเมิดศาล หรือวิจารณ์วิเคราะห์คำพิพากษาของศาลโดยเด็ดขาด (5) ห้ามเขียนหรือกระทำการแสดงความคิดเห็นต่างๆที่เข้าข่ายผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ (6) ต้องปฏิบัติและเคารพกฏหมายและระเบียบธรรมเนียมปฏิบัติอย่างเคารพกฏหมายอย่างเข้มงวด

Leave a Reply

Your email address will not be published.