ตำรวจ สภ.สตึก ตามจับได้แล้วมือปืนขับยารีสยิงกลางสี่แยกแล้วขับหนีเป็นชาวอุทัยธานี สารภาพเป็นเพียงปืนแก๊ปเด็กเล่น ยิงเพราะฉุนที่ห้างโลตัส ไม่ให้เข้าห้างเพราะไม่มีสติ๊กเกอร์ Buriram Healthy ของคณะกรรมการป้องกันโรคติดต่อประจำจังหวัดบุรีรัมย์
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 5 พ.ค. 63 พ.ต.ท.นิติพงษ์ สีทาเลิศ รอง ผกก.(สืบสวน) พ.ต.ท.สามารถ หมายสม สารวัตร(สืบสวน)สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ นำตัวนายสิทธิชัย ช่างวัดดี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/7 ม.10 ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ,นายน้อย นามสมมุติ อายุ 19 ปี และนายทรงเผา คำผา อายุ 31 ปี ทั้งหมดเป็นชาว จ.อุทัยธานี อาชีพทำงานวิค(ผมปลอม)ที่บุรีรัมย์ มาสอบสวน หลังจากเมื่อเวลา 14.00 น.(4 พ.ค.)ที่ผ่านมาทั้ง 3 ได้รถเก๋งยี่ห้อยารีส สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลัง ก่อเหตุใช้อาวุธยิงปืนไม่ทราบขนาดยิงขึ้นฟ้า บริเวณสี่ไฟแดงหนองเกาะ เขตเทศบาลสตึก อ.สตึก ตามภาพจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดีที่ขับรถตามหลังมา
นายน้อย นามสมมุติ อายุ 19 ปี และนายทรงเผา คำผา อายุ 31 ปี
(นำผู้ต้องหามาสอบสวน)
นายน้อย นามสมมุติ อายุ 19 ปี และนายทรงเผา คำผา อายุ 31 ปี
(นำผู้ต้องหามาสอบสวน)
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สตึก หลังรับเรื่อง ได้นำกำลังออกติดตาม รถต้องสงสัยคันดังกล่าว จนกระทั่งพบรถตามภาพจอดอยู่ลานจอดรถด้านหลัง ห้างสตึกพาซ่า ต.นิคม อ.สตึก จึงเข้าแสดงตัวเข้าจับกุม จากการสอบสวนนายสิทธิชัย คนขับรถให้การสารภาพว่า วันเกิดเหตุตนเป็นคนขับรถ นั่งมาด้วยกัน 3 คนขับมาหาเพื่อนที่ อ.สตึก แต่ต้องการแวะเข้าห้างโลตัสสาขา อ.สตึก แต่พนักงานห้างไม่อนุญาตให้เข้าไปในห้าง เพราะบัตรประจำตัวประชาชนไม่ติดสติกเกอร์ Buriram Healthy ที่แสดงถึงความปลอดโรคโควิด 19 ของคนบุรีรัมย์ ขณะจอดสี่แยกไฟแดงข้างโลตัสสาขาสตึก กำลังจะเลี้ยวรถกลับบุรีรัมย์
นายน้อย นามสมมุติ อายุ 19 ปี และนายทรงเผา คำผา อายุ 31 ปี
(นำผู้ต้องหามาสอบสวน)
จังหวะนั้นนายทรงเผ่า ซึ่งอยู่ในอาการฉุนเฉียวที่ไม่ได้เข้าห้าง จึงคว้าปืนแก๊ปเด็กเล่นที่เพิ่งซื้อมาได้วันเดียวขึ้นมายิงขึ้นฟ้า 2 นัดแล้วขับรถกลับบุรีรัมย์ตามปกติ จนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
รถยนต์ที่ทางผู้ต้องหาใช้ในการขับขี่และยิงปืนกลางเมือง
รถยนต์ที่ทางผู้ต้องหาใช้ในการขับขี่และยิงปืนกลางเมือง
หลังการสอบปากคำเบื้องต้นได้นำตัวส่ง ร.ต.อ. พรหมพิริยะ พันสีเงิน รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.สตึก พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ตามมาตรา 370 ผู้ใดส่งเสียงทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึ้งโดยไม่มีเหตุอันควร กระทำให้ประชาชนตกใจ หรือเดือดร้อนต้องละวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ก่อนผู้ก่อเหตุแยกย้ายกลับบ้าน พร้อมฝากขอโทษสังคมที่กระทำลงไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และคิดว่าไม่มีความผิดเพราะเป็นเพียงปืนแก๊ป
///////////
สำนักข่าว RATCHATA NEWS 085-157-7465
ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง/จ.บุรีรัมย์/รายงาน
