DSI คืน แลมโบกินีให้ “ผกก.โจ้” อัยการมีความเห็น สั่งฟ้องผู้ต้องหา แต่ริบรถ ชี้! ไม่ใช่ทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิด

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 64 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้มีหนังสือที่ อส 0017.4/4 ลงวันที่ 5 ม.ค.64 แจ้งผลเกี่ยวกับทรัพย์สินในคดีนำเข้ารถยนต์ราคาแพง (รถหรู) โดยสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง กรณีรถยนต์ยี่ห้อแลมโบกินี หมายเลขรุ่น AVENTADOR หมายเลขตัวรถ ZHWEC1ZD6DLA02280 หมายเลขเครื่องยนต์ L 53901702 ระบุว่า พนักงานอัยการมีความเห็นและคำสั่งในคดีแล้ว และมีของกลางที่พนักงานสอบสวนยึดไว้ตามบัญชีของกลางส่งมาด้วยซึ่งไม่ใช่ทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิด หรือได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือได้มาโดยได้กระทำความผิด จึงให้พนักงานสอบสวนจัดการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 85 โดยหนังสือแจ้งผลดังกล่าวถือว่าพนักงานอัยการมีดุลพินิจออกคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล แต่ไม่ขอให้ศาลริบรถยนต์ของกลางตามที่ดีเอสไอร้องขอ ดีเอสไอจึงคืนรถยนต์ของกลางให้กับผู้ครอบครองหรือผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ 199/2560 และมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 8 ราย ในความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560, พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และกฎหมายอาญา พร้อมส่งสำนวนและบัญชีของกลาง ไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 62 และขอให้ริบรถยนต์ของกลางในคดีด้วย โดยระหว่างการดำเนินคดีดีเอสไอได้อนุญาตให้ นายธิติสรรค์ อุทธนผล ผู้ครอบครองหรือผู้มีสิทธิเรียกร้องในขณะนั้นทำสัญญานำรถยนต์ของกลางไปเก็บรักษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 85/1

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ต่อมาพนักงานอัยการได้พิจารณาสำนวนแล้ว วินิจฉัยว่า บริษัทผู้ต้องหาที่ 1 ถึงที่ 7 อยู่ในกระบวนการนำรถยนต์ของกลางเข้ามาในราชอาณาจักรและสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอากรจึงมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหา 7 ราย และมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา 1 ราย ซึ่งตนได้มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องไปยังอัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 28 ม.ค.64 เพื่อให้ชี้ขาดความเห็นตามกฎหมาย กระทั่งอัยการมีดุลพินิจทำการสั่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล แต่ไม่ขอให้ศาลริบรถยนต์ของกลาง

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า การดำเนินคดีของดีเอสไอ ทำเป็นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มีพนักงานอัยการจาก สำนักงานการสอบสวน ร่วมการสอบสวน มีที่ปรึกษาคดีพิเศษร่วมให้ข้อมูล ก่อนจะร่วมกันตัดสินใจในทุกขั้นตอน และการสืบสวนสอบสวนมีการดำเนินการภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายในทุกขั้นตอน

#RATCHATANEWS #การเมือง

Loading

Facebook Comments: (1) ห้ามใช้คำพูด หรือเขียนข้อความหยาบคาย ด่าทอ ดูถูกดูหมิ่นดูแคลน (2) ห้ามพูดหรือเขียนข้อความอันจาบจ้วงสถาบันหลักสำคัญของชาติ ห้ามละเมิดกฎหมาย ป.อาญามาตรา 112 โดยเด็ดขาด (3) ห้ามพูดจาละเมิดหรือเขียนข้อความอันสร้างความเกลียดชังในเรื่อง ชาติ ศาสนา เชื้อชาติ การแสดงความเคารพต่างๆ ของส่วนบุคคล และของประเทศต่างๆ ห้ามเอาความเชื่อส่วนบุคคลมาวิพากย์วิจารณ์อย่างดูหมิ่นดูแคลนเหยีดหยาม (4) ห้ามพูดจาหรือเขียนข้อความ ที่ดูหมิ่น-ละเมิดศาล หรือวิจารณ์วิเคราะห์คำพิพากษาของศาลโดยเด็ดขาด (5) ห้ามเขียนหรือกระทำการแสดงความคิดเห็นต่างๆที่เข้าข่ายผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ (6) ต้องปฏิบัติและเคารพกฏหมายและระเบียบธรรมเนียมปฏิบัติอย่างเคารพกฏหมายอย่างเข้มงวด

Leave a Reply

Your email address will not be published.