เขย่าองค์กรตำรวจ สั่นสะเทือนไปทั้งจังหวัดนครสวรรค์ คลิป พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีตผู้กำกับเมืองนครสวรรค์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาพร้อมลูกน้องอีก 6 คน ร่วมกันทรมาน นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด โดยใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตคาห้องสืบสวนโรงพักปากน้ำโพ เป็นครั้งแรกที่วิธีการคลุมหัวทรมานผู้ต้องหาออกสู่สาธารณะ ถึงแม้จะเป็นวัฒนธรรมที่ตำรวจทำกันมานาน ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาคุยกันในที่แจ้ง ยิ่งการทรมานประสงค์รีดทรัพย์หรือไม่ เหยื่อจนต้องสังเวยชีวิต สังคมยิ่งรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่โหดร้ายของกลุ่มผู้ต้องหา ซ้ำยังมีการพยายามปิดบังสาเหตุการเสียชีวิต ยัดเยียดเสพยาเกินขนาด เพื่อปิดบังความผิดของตัวเอง ทำลายหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อม โดยใช้สถานที่ราชการเป็นที่ลงมือก่อเหตุ ตำรวจกลายเป็นโจรในเครื่องแบบ กรรมติดจรวดเรื่องฉาวโฉ่ไหวตัวทันชิ่งหนีทิ้งลูกน้องไปซุกปีกผู้มีอิทธิพลที่ชลบุรี
คลิปที่เป็นหลักฐานมัดแก๊ง ผกก.โจ้ จะหลุดมาด้วยสาเหตุใด ใครได้ประโยชน์ใครเสียผลประโยชน์ไม่ใช่เรื่องที่น่าสงสัยการปฏิบัติตามหน้าที่ของตำรวจ คลิปถุงดำเป็นข่าวไปทั่วโลก ทีวี สื่อออนไลน์ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี นำไปตีแผ่องค์กรตำรวจไทยที่ปฏิบัติต่อผู้ต้องหา ถูกสังคมโลกประณามเละ! เป็นประเทศที่ด้อยพัฒนา ระบบราชการเต็มไปด้วยการคอร์รัปชัน สงสารคนไทยที่ต้องทนอยู่กับสังคมที่ไร้คุณธรรม ซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น การเสียชีวิตของผู้ต้องหารายนี้ไม่สูญเปล่า ได้กระชากหน้ากากด้านมืดของตำรวจออกสู่ที่แจ้ง
“ผู้กำกับโจ้” ถูกจับ เป็นเรื่องธรรมดา ลองตำรวจเอาจริง ไม่มีผู้ร้ายคนไหนหนีรอด แต่ผลสอบผู้กำกับโจ้ที่นำไปสู่การ “ขยายผล” นั่นต่างหาก ถ้าเปิดเผยและเอาจริงเอาจัง จะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “แผ่นดินไหว” ทางการบ้าน-การเมือง ชนิดไม่คิดและคาดหมายมาก่อน ได้แต่ชะเง้อรอเก้อตาค้าง กันบ้าง ในช่วงเดือนสองเดือนข้างหน้านี้ โดยเฉพาะประเด็นที่ร่ำร้องเรียกหาการปฏิรูปตำรวจ บ้างก็ยกเครื่องล้างบางตำรวจผลสืบเนื่องมาจากผู้กำกับ “โจ้คลุมถุง” จะผลักดันให้ตำรวจต้อง “รื้อ ล้างระบบ” ชนิดที่ยินยอมพร้อมใจ ก็คราวนี้แหละ!
“พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์” ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 พ่อตาหรือว่าที่พ่อตาผู้กำกับโจ้ ท่านรับผิดชอบภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด “กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี” อยู่ในตำแหน่งสะดวก สบาย มา 3-4 ปี ตั้งแต่ยุค ผบ.ตร.ชื่อจักรทิพย์ และจะเกษียณกันยายนนี้ เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว ขอกุศลอานิสงส์ในการทำหน้าที่ผู้บัญชาการภาค 6 ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ตลอดมา จงคุ้มครองด้วยเถิด ไม่ใช่อะไร? เพราะท่าน นรต.รุ่น 36 รุ่นเดียวกับ ผบ.ตร.สุวัฒน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ และอดีต ผบ.ตร.จักรทิพย์ก็จริง
แต่คดีนี้ ได้ยินจากปาก ผบ.ตร.สุวัฒน์ประกาศ “นิ้วไหนร้าย ต้องตัดนิ้วนั้นทิ้ง”! ผบ.ตร.ยอมเสียอวัยวะ คือเพื่อนที่ไม่ดีทิ้ง เพื่อรักษาชีวิต คือตำรวจที่ดีทั้งองค์กรไว้ มาตรฐานปฏิบัติตำรวจ ท้องที่ไหนส่อบกพร่องหรือไม่ซื่อ ปล่อยมีบ่อน มีซ่อง มียาเสพติด มีของเถื่อน เกลื่อนกลาด จะถูกย้าย ถูกตั้งกรรมการสอบ แล้วกรณีคลุมถุงพ่อค้ายารีดทรัพย์จนตายอย่างนี้ จะให้สังคมเข้าใจว่า ชั่วแค่เด็ก ผู้บังคับบัญชาไม่เกี่ยว ไม่รู้เห็น ไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องถูกสอบอะไรเลยอย่างนั้นหรือ?
แล้วอย่างนี้ไม่เรียกว่า “สองมาตรฐาน” ไปหน่อยหรือ? ผู้ใหญ่กินมาก ชมว่าเจริญอาหาร แต่พอเด็กกินจุ ดุว่าตะกละ ดันพูดได้ แต่เมื่อสอบถามเหตุผล “ก็กูเป็นผู้บังคับบัญชามึงไง” เพราะอย่างนี้ ถึงได้เกิด “รุ่นใหม่ รุ่นเก่า” ตีกัน!
ดังนั้น ดูรูปการณ์และพฤติกรรมแล้ว คาดว่า พล.ต.ท.อภิชาติ น่าจะไม่สุขก่อนเกษียณแน่ เว้นแต่นายกฯ และ ผบ.ตร.จะไม่ต้องการ “รื้อ ล้าง” ระบบตำรวจที่เน่าเละจนหนอนเอือมระอา เป็นการส่งสัญญาณให้สังคมรู้ “การล้างบางตำรวจเริ่มแล้ว” คดีนี้ หากพินิจพิเคราะห์ดู จะ “ตัดตอนจบ” แค่จับผู้กำกับโจ้ สอบแล้วทำสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องต่อศาล แค่นั้นคงไม่ได้ หากเป็นอย่างนั้น พังแน่! พังทั้งตำรวจ ทั้งรัฐบาล และตัวนายกฯ เพราะเรื่องนี้ มันเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” บนหลังประชาชนจริงๆ จากพฤติกรรม เหตุอันเป็นองค์ประกอบหลัก บ่งชัด ที่สำคัญคดีนี้ปฏิเสธไม่ได้ นี่มันเกี่ยวพันการ “ค้ายาเสพติด” ในภาค 6 จากฝั่งพม่าเข้ามาไทย ทางแม่สอด จังหวัดตาก ชัวร์ระดับ 80-90 % ฉะนั้น อย่าคิดว่า ทั้งนายกฯ และ ผบ.ตร.จะไม่ “ตัดตอนจบ” เป็นแน่แท้ แต่ต้องปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง “รื้อ” เลิกพรมทั้ง สตช. “ล้างบาง” กันไปเลยในคราวนี้ ขืนไม่รื้อ สตช.และรัฐบาล มีสิทธิ์ “ถูกสังคมรื้อ!“ ตัวผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 มีโอกาสเป็น “ปฐมแห่งการรื้อ ล้าง” ระบบตำรวจ
แต่มีคำถามคาใจ ที่หลายคนให้ความสนใจและอยากรู้ว่าผบ.ตร.ไว้วางใจ พล.ต.ท.อภิชาติในคดีนี้หรือไม่? ดูจากรายชื่อ “คณะกรรมการสืบสวน สอบสวน” ที่ท่านตั้งเมื่อวานก็แล้วกันร่วม 20 นาย มี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าคณะ และ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.เป็นรองหัวหน้าคณะ ในจำนวนทั้งหมด มีรองผู้บัญชาการภาค 6 รวม 3 นายร่วม แต่ไม่มีชื่อ “พล.ต.ท.อภิชาติ” ในฐานะ ผบช.ภ.แต่อย่างใด ปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้น การที่ ผบ.ตร.มอบให้ พล.ต.อ.สุชาติ ซึ่งรู้ตื้นลึก หนาบาง “เส้นทางสีเทา” ในภาค 6 ที่ พล.ต.ท.อภิชาติคุมอยู่ มาเป็นหัวหน้าคณะสะสางคดีผู้กำกับโจ้
และแล้วความจริงที่รอคำตอบ “ถูกตัว ถูกที่ ถูกงาน” จริงแท้มากน้อยแค่ไหน? การ “ล้างบางตำรวจ” เปิดฉากที่ภาค 6 “นครสวรรค์ แม่สอด” เป็นปฐมบทอย่างแน่นอน ขอเพียงอึดใจรอ เราก็จะรู้คำตอบ! ภายในถุงคลุมหัวพ่อค้ายา มันมีอะไรมโหฬารพันลึกซ่อนอยู่ ซึ่งยากยิ่งกว่าเราจะเข้าใจ หากยังไม่เปิดเผยและยังหาคำตอบให้สังคมรับทราบไม่ได้ การรอคอยก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะรอไม่ได้ เพราะปมแค้นนี้ต้องชดใช้ด้วยการชำระบุญคุณ ที่มีมูลค่าแพงสุดระทึก! มหึมา! จริงหรือไม่โปรดติดตาม
#RATCHATANEWS #โจ้ถุงดำ
