คำพูดที่ออกมาจากปาก นักเลงเรียกพี่ คนที่ชื่อชาดา ตัวจริงเสียงจริง ประโยคหนึ่ง “สิ่งที่ท่านนายกฯ ประยุทธ์ ต้องรู้ คือท่านขาดจิตวิทยามวลชน ท่านไม่ออกมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนใน กทม. ตามชุมชนต่างๆ ผู้นำไม่ใช่อยู่กับบ้าน ไม่สมกับเป็นชายชาติทหาร ต้องออกดูปัญหาออกมารับรู้เพื่อเห็นสภาพความเป็นจริง”
นี่เป็นการส่งสัญญาณความร้าวลึกที่อึมครึม 2 ป.เมิน “ธรรมนัส” พึ่งคนในยุทธจักร ผนึกชาดา ขาใหญ่อุทัยธานี ไม่มีเหงาบนถนนสายเลือกตั้ง มีสื่อทุกสำนักจับวิเคราะห์ตรงกันว่า ความขัดแย้งระหว่าง “2 ป.” กับ “ธรรมนัส” ไม่จบแค่การจัดฉากขอโทษขอโพยที่บ้านป่ารอยต่อฯ ตอนบ่ายแก่ๆ ที่ผ่านมา
แม้พี่ใหญ่ “ป.ป้อม” จะออกมาการันตีไม่มีการปรับ ครม. เก้าอี้ รมช.เกษตรฯของ “ธรรมนัส” ยังมั่นคง ก็ยากที่จะมีคนเชื่อ เพราะภาษากายของ “2 ป.” ต่อผู้กอง”ธรรมมนัส” นั้น แรงเกินบรรยายบรรยายคลายทุกข์ลงได้
นอกจากนี้ กรณีธรรมนัสเอฟเฟกต์ ได้ทำให้ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ประยุทธ์ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อเช้าวันที่ 7 ก.ย.2564
“สิ่งที่ท่านนายกฯ ประยุทธ์ ต้องรู้ คือท่านขาดจิตวิทยามวลชน ท่านไม่ออกมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนใน กทม. ตามชุมชนต่างๆ…ผู้นำไม่ใช่อยู่กับบ้าน ไม่สมกับเป็นชายชาติทหาร ต้องออกดูปัญหาออกมารับรู้เพื่อเห็นสภาพความเป็นจริง” ชาดาวิพากษ์ความล้มเหลวในการแก้วิกฤตโควิดของ พล.อ.ประยุทธ์
คนในยุทธจักรรู้ดีว่า “ธรรมนัส” กับ “ชาดา” เป็นเพื่อนตายสหายศึก ทั้งคู่รู้จักมักคุ้นกันมานานปี ในทางการเมืองนั้นอยู่คนละพรรค แต่ก็ “พวก” เดียวกัน
รูปธรรมแห่งการยึด อบจ.นครสวรรค์ เมื่อปลายปีที่แล้ว อธิบายความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของผู้ชาย 3 คนคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า,ชาดา ไทยเศรษฐ์ และ ยงยุทธ ติยะไพรัช
ช่วงกลางปี 2563 หิมาลัย ผิวพรรณ เพื่อนร่วมรุ่น ตท.25 ของ “ธรรมนัส” ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ได้ไปเคลื่อนไหวทำกิจกรรมการเมืองในพื้นที่นครสวรรค์ ร่วมกับ สัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ เวลานั้น คนปากน้ำโพรู้ดีว่า “หิมาลัย” กำลังโปรโมต พล.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ ประธานกลุ่มนครสวรรค์บ้านเรา กรุยทางสู่การเลือกตั้งนายก อบจ.นครสวรรค์
เดือน ต.ค.2563 พล.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ เปิดตัวกลุ่มนครสวรรค์บ้านเรา และเสนอตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครสวรรค์ ซึ่งทีมงานของสมศักดิ์ ล้วนเป็นเครือข่ายพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ จิตรา หมีทอง ประธานสภา อบจ.นครสวรรค์, มารุต ศรีผึ้ง นายก อบต.สาย ลำโพง อ.ท่าตะโก และ ไชยรัตน์ บัวเทศ หัวหน้าสาขาพรรคภูมิใจไทย จ.นครสวรรค์
สื่อท้องถิ่นปากน้ำโพ พาดหัวข่าว “ฉลามดำจับมือชาดา-ธรรมนัส ยึด อบจ.นครสวรรค์” ซึ่งคนปากน้ำโพรู้จัก “สมศักดิ์” ในนามมือปราบฉลามดำมาก่อน “พล.ต.ท.สมศักดิ์” เป็นชาวเชียงใหม่โดยกำเนิด ลาออกจากราชการตำรวจมาเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สายตรงคนดูไบ หลังเลือกตั้ง 2562 มือปราบฉลามดำ จับมือยงยุทธ ติยะไพรัช เคลื่อนไหวการเมืองในนามกลุ่มพลเมืองร่วมใจ นี่คือภาพสะท้อน “ลูกข้าวนึ่งคอนเนคชั่น” ระหว่าง “ธรรมนัส” เมืองพะเยา กับ “ยงยุทธ” เมืองเชียงราย ‘สี่แคว-สะแกกรัง’
เลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่แล้ว “ชาดา” ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รับผิดชอบสนามเลือกตั้งภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง โดยเน้นหนักที่อุทัยธานี และนครสวรรค์ “ชาดา” ตั้งเป้าเจาะเมืองสี่แคว 2 เขต แต่ก็ได้มาแค่เขตเดียวคือ มานพ ศรีผึ้ง ส.ส.นครสวรรค์ เขต 4 ซึ่งมานพเป็นอดีตนายก อบจ.นครสวรรค์ ส่วนเขต 2 พ่ายความเก๋าของวีระกร คำประกอบ พรรคพลังประชารัฐ
ล่าสุด “ชาดา” คว้าตัว พีระเดช ศิริวันสานท์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคประชาธิปัตย์ มาอยู่ในสังกัดภูมิใจไทยเรียบร้อยแล้ว สมัยหน้า ชาดาตั้งเป้าดันพีระเดช เป็น ส.ส.นครสวรรค์ เขต 5 ให้ได้ หลังบรรยิน ตั้งภากรณ์ เจอวิบากต้องนอนคุก ส่งผลให้ค่ายเพื่อไทยนครสวรรค์ ไร้หัว
ฉะนั้น ทายาท เกียรติชูศักดิ์ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 5 และ พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ เขต 4 พรรคเพื่อไทย ตกที่นั่งลำบาก ยิ่งมือปราบฉลามดำ หันมาจับมือ “ธรรมนัส” และ “ชาดา” ก็น่าจะรู้ คนปากน้ำโพที่โดนลอยแพเป็นใคร ติดตามการวิเคราะห์ทุกเรื่องราวที่อยากรู้ได้ที่ RATCHATA NEWS ทุกข่าวเข้มเน้นความจริง
#RATCHATANEWS