จากการเปิดเผยของ ดร.บุญยงค์ จันทร์แสง หัวหน้าพรรคประชาไทย ได้กล่าวกับ ผู้สื่อข่าว เรื่องความพร้อมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ทางพรรคประชาไทยมีความพร้อมและสามารถส่งว่าที่ผู้สมัครลงเลือกตั้งทั่วทุกเขตของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นระบบบัตรใบเดียวหรือสองใบที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในครั้งต่อไปเพราะทางเราได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อประเทศชาติและประชาชน โดยเน้นวิถีชีวิตใหม่อนาคตสดใสเพื่อ คุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น นี่คือนโยบายหลักพรรคประชาไทย
สำหรับนโยบายหลักคือ ชูธง สูงวัย หนุน คนรุ่นใหม่ ซึ่งนโยบายนี้ ผู้สูงวัยตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไปทุกคน จะปรับเบี้ยยังชีพเป็น 3,000 บาท เพราะปัจจุบันนี้ ผู้สูงวัยจะได้รับแต่ละเดือนเป็นขั้นบันไดไม่เท่ากันหรือต่างกัน เช่น อายุ 60ปี ได้ 600 บาท อายุ 70 ปี ได้ 700 บาท เป็นต้น ซึ่งทางพรรคประชาไทยมองแล้วผู้สูงวัยไม่พอต่อการยังชีในสภาวะเศรษฐกิจที่เป็นไป
นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีจะมีวันผู้สูงอายุ ในช่วงเวลานี้นโยบายของเราก็มอบพิเศษอีก 1,000บาท ส่วนเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหมู่บ้าน (อสม.) ก็จะปรับจาก 1,500 บาท เป็น 3,000 บาทต่อเดือน สิ่งที่กล่าวมานี้ หากพรรคประชาไทยได้ร่วมรัฐบาลจะดำเนินการทันที
สำหรับกรณี หนุนคนรุ่นใหม่ ดร.บุญยงค์ จันทร์แสง ขอฝากผ่านสื่อมวลชนทุกสำนักถึงคนรุ่นใหม่ที่เรียนจบระดับตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไปจนถึงปริญญาเอกระดับใดก็ได้ ใบปริญญาของท่านมีค่าต่อการจะเป็นเถ้าแก่น้อยโดยใช้ใบปริญญาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกู้เงินลงทุนทำธุรกิจได้ส่วนจะมีหลักการอย่างไรจะนำเรียนอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าว ได้ถามถึงสนามเลือกตั้งในกรุงเทพมหานครทางพรรคประชาไทยจะส่งว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนกรุงเทพหรือไม่ ดร.บุญยงค์ จันทร์แสง ตอบว่า ได้บอกไปแล้วว่าเราพร้อมทุกเขตของประเทศและไม่ใช่เพียงแต่ส่ง ส.ส.เท่านั้น สมาชิกสภากรุงเทพ 50 เขต และผู้ว่ากรุงเทพฯ ก็พร้อมเพียงขอดูข้อกฎหมายว่า การส่งว่าที่ผู้สมัครทั้ง ส.ก. และผู้ว่ากรุงเทพฯ ขัดต่อกฎหมายหรือไม่แต่ทางกรรมการบริหารพรรคได้มอบหมายให้นางพรกมล บุนนาค รองโฆษกและประธานยุทธศาสตร์กรุงเทพฯ เป็นผู้ดูแลสรรหารับผิดชอบว่าที่ผู้สมัครทั้งหมด
#NewsandTalk #Ratchatanews.com #ChiangMaiTalkNewspaper
#การเมือง #พรรคประชาไทย #บุญยงค์จันทร์แสง #พรกมลบุนนาค