เมื่อวันที่ 23 พ.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เชิญเรียกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องหารือถึงสถานการณ์ราคาพลังงานว่า ในการพูดคุยครั้งนี้เนื่องจากนายกรัฐมนตรีและทุกคนมีความเป็นห่วงกรณีที่จะมีการประชุมของกลุ่มโอเปค ในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ เราก็ต้องจับตาดูว่าจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไร หลังจากกลุ่มโอเปคมีความไม่พอใจที่หลายประเทศ อาทิ สหรัฐจีนญี่ปุ่นและอินเดียนำน้ำมันสำรองมาใช้จนมีผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยโอเปคจะประชุมทบทวนเรื่องกำลังการผลิตอีกครั้ง ในวันที่ 4 ธันวาคมนี้
อย่างไรก็ตามแม้ขณะนี้ราคาน้ำมันในประเทศไทยจะเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นและปรับลดลงซึ่งในวันที่ 24 พ.ย. 2564 กลุ่ม ปตท. จะมีการประกาศลดราคาน้ำมันลงมาอีก อย่างไรก็ตามที่ประชุมไม่ได้มีการเคาะให้ลดราคาน้ำมันให้ต่ำลงมากกว่านี้ขณะนี้ โดยต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ยังไม่ออกเป็นมาตราการอะไรเพิ่มเติม ซึ่งเพดานราคาน้ำมันดีเซล ยังคงตรึงอยู่ที่ 30 บาท ต่อลิตรซึ่งก็เริ่มทรงตัวและอ่อนตัวลง
นายสุพัฒนพงศ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางของรัฐบาล ยังคงใช้การชดเชย จากกองทุนน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ไปอีกสักระยะ เนื่องจากยังไม่แน่ใจถึงสถานการณ์โลกว่าจะหยุดนิ่งอย่างไร จนกว่าจะกลับเข้าสู่ระดับราคาเท่าช่วงปลายเดือนกันยายน
“ในส่วนข้อเสนอของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลให้เหลือ 25 บาทต่อลิตรนั้น รัฐบาลจะพิจารณาไปเป็นข้อๆ ไป หวังว่าเรื่องสถานการณ์ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ช่วยเหลือดูแลค่าใช้จ่ายประชาชน ผ่านโครงการต่างๆ ทั้งโครงการคนละครึ่ง การคงสภาพการจ้างงาน แต่แนวทางที่คิดว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดคือการพยายามเปิดประเทศอย่างยั่งยืน ไม่ให้มีสถานการณ์โควิดมาซ้ำเติมระลอกใหม่ อย่างไรก็ตามแม้โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ยังไม่มีการพิจารณาในตอนนี้ แต่รัฐบาลกำลังพยายามหาของขวัญปีใหม่มาให้กับประชาชน” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
รองนายกฯ กล่าวว่า สำหรับเงินกู้ 2 หมื่นล้านบาท ที่เตรียมไว้คาดว่าจะใช้แก้ปัญหาได้ 4-5 เดือน ส่วนข้อเรียกร้องราคาน้ำมันดีเซลให้ตรึงเหลือ 25 บาทต่อลิตรนั้น มองว่าทำไม่ได้เพราะจะต้องใช้งบประมาณเฉลี่ยวันละ 500 ล้านบาท หรือเดือนละ 15,000 ล้านบาท ตกปีละ 180,000 ล้าน พรรคเพื่อไทยออกมาทวงถามว่าเงิน กองทุนน้ำมัน กว่า2 หมื่นล้าน หายไปไหนนั้นก็ต้องเสียแจ้งว่าที่ผ่านมาได้ใช้ไปเกือบหมดแล้วเพราะต้องใช้ในการอุดหนุนประมาณเดือนละ 4,000 ล้านบาท และการตรึงคงราคาก๊าซแอลพีจีมาตลอดปีกว่า พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้มีรายได้น้อย พ่อค้าแม่ค้าไม่ได้รับผลกระทบ จึงขอทุกฝ่ายร่วมมือกันเปิดประเทศเพราะหากต้องล็อคดาวน์ขึ้นมาอีกก็จะเกิดผลกระทบ
#NewsandTalk #Ratchatanews.com #ChiangMaiTalkNewspaper
#การเมือง #พลังงาน #ปตท #ตรึงราคาดีเซล #สุพัฒนพงษ์พันธุ์มีเชาว์