นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (รรท.อทช.) กล่าวว่า ทะเลและชายฝั่งเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อประเทศ เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ ตลอดจนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอย่างมากมาย ปัจจุบันการพัฒนาประเทศทำให้มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว
ตลอดจนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อีกทั้งจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ให้ความสำคัญต่อการสงวน อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศ จึงมอบหมายให้หน่วยงานในแต่ละพื้นที่ดำเนินงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมกับดึงเครือข่ายชุมชนชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรในท้องถิ่นของตน รวมถึงทำงานใกล้ชิดกับผู้นำชุมชนชายฝั่ง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
นายอภิชัย รรท.อทช. กล่าวต่อว่า จากปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่เกิดขึ้น ภาครัฐได้ดำเนินการเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้มีประสิทธิภาพ โดยกำหนดประเด็นด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้งดำเนินการตามแผนงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยมีกฎหมายที่สำคัญ คือ พระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 และมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองและรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเล
เพื่อปกป้อง คุ้มครอง และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างเป็นระบบ ผสานความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแบบบูรณาการ ตลอดจนกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหามลพิษทางทะเลและชายฝั่งให้คงอยู่และสร้างการเติบโตบนพื้นฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สมดุลอีกด้วย
จากความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรม ทช. ได้เดินหน้าขับเคลื่อนและให้ความสำคัญต่อการสร้างรากฐานความมั่นคงของเครือข่ายชุมชนชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลมาโดยตลอด จะเห็นว่าที่ผ่านมาเรามีเครือข่ายเป็นกำลังสนับสนุนอยู่ทั่ว 23 จังหวัดชายฝั่งทะเล คอยสอดส่องดูแลทรัพยากรหน้าบ้านของตนไม่ให้เสื่อมโทรมหรือได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ รวมถึงน้ำมือของมนุษย์ และในวันนี้ (12 มิถุนายน 2566) ตนได้มอบหมายให้นายมนตรี หามนตรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 (ปัตตานี)
พร้อมด้วยดร.แสงจันทร์ วายทุกข์ ผู้อำนวยการกองจัดการชุมชนชายฝั่งและเครือข่าย นำคณะผู้บริหาร นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและแผนทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในการนำมาพัฒนาความรู้ในทางนโยบาย ระเบียบ กฎหมาย ข้อมูลระดับพื้นที่ สภาพระบบนิเวศ แหล่งทรัพยากร การจัดการทรัพยากรในท้องถิ่นของชุมชน อีกทั้งเป็นฐานข้อมูลสำหรับพัฒนาระบบการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ผ่านกิจกรรมการประชุมภาคีชุมชนชายฝั่ง อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 9 โดยมีนายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธาน พร้อมกันนี้ นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนราธิวาส และนายสุไลมาน ดาราโอะ ภาคประชาชน ตลอดจนศรชล.จังหวัดปัตตานี นราธิวาส ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการฯ ผู้แทนกลุ่มเครือข่ายชุมชนชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส เข้าร่วมประชุมจำนวน 120 คน ณ ห้องประชุม PENDULA II โรงแรมปาร์คอินทาวน์ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
ทั้งนี้ จังหวัดปัตตานีมีเครือข่ายชุมชนชายฝั่ง 21 กลุ่ม/886 คน และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล 1774 คน และจังหวัดนราธิวาส มีเครือข่ายชุมชนชายฝั่ง 3 กลุ่ม/105 คน และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล 33 คน โดยส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากทะเลและป่าชายเลน
สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าตนจะไม่ได้มาพบปะพี่น้องเครือข่ายชุมชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลด้วยตัวเอง แต่กรม ทช. ขอสัญญาว่าจะยืนหยัดอยู่ข้างพี่น้องเครือข่าย พร้อมกับสนับสนุนการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่ง และป่าชายเลน รวมถึงสัตว์ทะเลหายากในทุกพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเล อีกทั้งเชื่อมความสัมพันธ์และบูรณาการทำงานของทุกฝ่ายให้เป็นหนึ่งเดียว อันจะนำไปสู่ความไว้วางใจ และทัศนคติที่ดีของเครือข่ายฯ นอกจากนี้ ตนต้องขอขอบคุณพี่น้องเครือข่ายและภาคส่วนต่างๆ ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนแผนการดำเนินงาน รวมถึงให้ความช่วยเหลือและสอดส่องดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งด้วยดีมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม หากทุกคนร่วมมือร่วมใจกันดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตนเชื่อมั่นว่า ทรัพยากรเหล่านี้จะเติบโตและสร้างผลผลิตให้แก่ชุมชนชายฝั่งได้อย่างมหาศาล สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับพี่น้องชุมชนชายฝั่งได้อย่างยั่งยืนตลอดไป “นายอภิชัย รรท.อทช. กล่าวในที่สุด”
สำนักข่าว RATCHATA NEWS